เครื่องคำนวณผลกำไรของ Forex
ยูนิตต่อ 1 ล็อตจะแตกต่างกันในแต่ละคู่ที่ไม่ใช่ Forex กรุณาตรวจสอบกับโบรกเกอร์ของคุณ
ใน MT4 และ MT5 ให้คลิกขวาที่สัญลักษณ์ จากนั้นคลิก Specification (ข้อมูลเฉพาะ) ช่องขนาดสัญญาจะบอกว่ามีกี่หน่วยในหนึ่งล็อต
ดูภาพ
เลเวอร์เรจ (Leverage) และมาร์จิน (Margin) คืออะไร
เลเวอร์เรจ (Leverage) จะช่วยให้เทรดเดอร์สามารถควบคุมการซื้อขายสุทธิที่มีขนาดใหญ่กว่าได้โดยใช้เงินที่น้อยกว่า (มาร์จิน) ดังนั้น จึงสามารถขยายโอกาสการทำกำไรหรือขาดทุนได้มากกว่า การซื้อขายเลเวอร์เรจเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า การซื้อขายมาร์จิน (margin trading)
เลเวอร์เรจจะขยายโอกาสในการทำกำไรหรือขาดทุน เช่น การซื้อ EUR/USD ที่ 1.0000 โดยไม่ต้องมีเลเวอร์เรจ หากมีการขาดทุน การขาดทุนรวมจะต่ำสุดที่ศูนย์ หรือขึ้นไปถึง 2.0000 หากคุณทำกำไร โดยจะมีโอกาสทำกำไรเป็นเท่าตัว หากคุณซื้อขายโดยใช้เลเวอร์เรจเต็มอัตราที่ 100:1 การเคลื่อนไหวของราคาที่ 100 เท่าหรือน้อยกว่า จะให้คุณทำกำไรหรือขาดทุนได้เท่ากันกับที่กล่าวมา
มาร์จิน (Margin) เป็นเงินทุนที่เทรดเดอร์ต้องใส่เข้าไปเพื่อเปิดการซื้อขายสุทธิ (Position) ใหม่ เงินจำนวนนี้ไม่ใช่ค่าธรรมเนียมหรือต้นทุนใด ๆ และระบบจะคืนให้อีกครั้งเมื่อปิดการซื้อขายแล้ว วัตถุประสงค์คือเพื่อปกป้องโบรกเกอร์ไม่ให้ขาดทุน เมื่อเทรดเดอร์ขาดทุนมาร์จินลงไปต่ำกว่าร้อยละการหยุดซื้อขายที่กำหนดไว้ล่วงหน้า โบรกเกอร์จะปิดตั้งแต่หนึ่งการซื้อขายสุทธิ (Position) ขึ้นไปโดยอัตโนมัติโดย การแจ้งเตือนมาร์จินเหลือน้อย (Margin call) จากโบรกเกอร์อาจปิดหรือไม่ปิดรายการซื้อขายนั้นก็เป็นได้
เลเวอร์เรจทำงานอย่างไร
ด้วยอัตราเลเวอร์เรจที่ 100:1 เทรดเดอร์สามารถเปิดการซื้อขายสุทธิได้มากกว่าการไม่ใช้เลเวอร์เรจ 100 เท่า เช่น หากปกติต้นทุนการซื้อ EUR/USD จำนวน .01 ล็อตอยู่ที่ $1000 การใช้เลเวอร์เรจที่ 100:1 แสดงว่าเทรดเดอร์ต้องใช้เงินเพียง $10 เป็นมาร์จิน และแน่นอนว่าเทรดเดอร์สามารถใช้เลเวอร์เรจน้อยที่สุดตามที่ตนต้องการได้
ข้อควรระวัง: ยิ่งเลเวอร์เรจสูงเท่าไหร่ ความเสี่ยงยิ่งมากเท่านั้น มืออาชีพส่วนใหญ่ใช้อัตราส่วนเลเวอร์เรจต่ำมาก ๆ หรือไม่ใช้เลย นั่นทำให้ร้อยละความเสี่ยงพอประมาณต่อการเทรดแต่ละครั้ง
หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ “เลเวอร์เรจ” กรุณาดูในบทความ Leverage in Forex and How to Use It (เลเวอร์เรจใน Forex และวิธีการใช้งาน).